ซีรี่ย์ sons of anarchy ปกติเวลาเริ่มดูซีรีย์ฝรั่งยาวๆมักจะคิดแล้วคิดอีก เพราะนอกจากจะต้องใช้เวลาติดตามนานแล้ว ยังมีซีรีส์อีกหลายเรื่องที่ทำให้เราใจอ่อน แล้วหยุดมองตรงกลาง แล้วกลับมาดูใหม่ มักจะเข้ากันไม่ได้ ถึงขั้นเลิกดูไปเลย
ซีรีส์ “Sons of Anarchy” ซึ่งจบลงในปี 2014
(ที่มา : วอลเปเปอร์ HD)
แต่กับ “Sons of Anarchy” ซีรีส์ลูกผู้ชายที่สร้างจากเรื่องราวของแก๊งมอเตอร์ไซค์ ด้วยความยาวถึง 7 ซีซั่น ทำให้สนุกได้อย่างต่อเนื่อง ถึงจะไม่ชอบมอไซค์. หรือเกี่ยวกับแก๊งอันธพาลแต่อย่างใด
“Sons of Anarchy” เป็นซีรีส์โทรทัศน์อเมริกันที่ผลิตโดย FX Networks ซึ่งขณะนี้มีให้บริการในทุกซีซันผ่าน Netflix เป็นเวลา 7 ซีซัน แต่ละซีซันมี 13 อีพี (14 อีพีในหนึ่งซีซัน) ระหว่างปี 2008 ถึง 2014 กับนักแสดงที่กลายเป็นที่รู้จักอย่าง “ชาร์ลี ฮันแนม” ที่มีผลงานภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์มากมาย เช่น Pacific Rim, King Arthur: Legend of the Sword, Crimson Peak
“ชาร์ลี ฮันแนม” กับบทบาท “แจ๊กซ์” ที่ทำให้เขาโด่งดังเป็นที่รู้จัก จนมีผลงานตามมามากมาย
(ที่มา : CinemaBlend)
Beyond Hannam ยังมีนักแสดงคุณภาพอีกหลายคนที่ต้องจดจำ เช่น Ron Perlman, Kathy Sagal, Tommy Flanagan, Jimmy Smiths เพราะประเด็นสำคัญของซีรีส์ คือการสร้างตัวละครที่รับรองว่าจะมีหลาย ๆ ตัวที่คุณหลงรัก รายละเอียดจะกล่าวถึงในหัวข้อรีวิวต่อไป
เรื่องย่อ ซีรี่ย์ sons of anarchy
ซีรี่ย์ sons of anarchy นำแสดงโดยแจ็คสัน เทลเลอร์ (แสดงโดยชาร์ลี ฮันแนม) หรือที่รู้จักกันในชื่อแจ็กซ์ ลูกชายของผู้ก่อตั้งจอห์น เทลเลอร์ แก๊งมอเตอร์ไซค์ “ลูกอนาคี” ผู้ล่วงลับ
ปัจจุบัน Jax ดำรงตำแหน่งรองประธานสาขา Redwood Originals ซึ่งรับบทโดยสมาชิกผู้ก่อตั้ง Clay Morrow (รอน เพิร์ลแมน) ประธานและยังเป็นพ่อบุญธรรมของ Jax เพราะ Clay แต่งงานกับ “Gemma” (Kathy Sagal) แม่ของ Jax
“เจมม่า” และ “เคลย์” 2 ตัวละครสำคัญที่ใกล้ชิดกับแจ็กซ์
[ที่มา: Sons of Anarchy (บล็อกสปอต)]
แม้ว่า “ลูกอนาคี” จะมีฉากหน้าเป็นสมาคมคนรักบิ๊กไบค์ และเปิดอู่ซ่อมรถ แต่เบื้องหลังพวกเขามีธุรกิจที่สร้างรายได้อย่างผิดกฎหมาย โดย Redwood Branch มีธุรกิจปืนเถื่อนกับชาวไอริช เป็นผลให้ตำรวจท้องที่รัฐบาลกลางและแก๊งอื่น ๆ ติดตามตรวจสอบ ซึ่งมีส่วนได้ส่วนเสียเสมอมา
การดำเนินงานของสาขาดูเหมือนจะเป็นไปได้ด้วยดี แต่ไปเจอเอกสารเกี่ยวกับแก๊งค์ที่พ่อทิ้งไว้ ทำให้ Jax เริ่มเลิกคิดเรื่องเป้าหมาย และทิศทางของแก๊งที่ทำให้เคลย์และเจมม่ากังวลใจที่คิดว่าสิ่งต่างๆ อาจเปลี่ยนไป จากที่ควรจะเป็น
“John Teller” พ่อของ Jax และผู้ก่อตั้งแก๊งค์ เสียชีวิตแล้ว
(ที่มา : Screen Rant)
คาแรกเตอร์ตัวละคร
ที่ต้องพูดแยกกัน เพราะการสร้างตัวละครภาคแรกถือเป็นหมัดเด็ดที่สำคัญของ SOA โดยซีรีส์สามารถดูแลตัวละครหลักได้ทั้งหมด ให้บริการผู้ชมอย่างคุ้มค่า และนำผลลัพธ์ที่ส่งผลดีต่อภาพรวมของเนื้อหา
เหนือสิ่งอื่นใด จุดแข็งของ SOA คือการใช้ศักยภาพของตัวละครอย่างเต็มที่
(ที่มา : Entertainment Weekly)
ตลอดการรับชม SOA ของคุณ จะมีความรู้สึกชื่นชอบเกือบทุกตัวละคร ในช่วงใดของเรื่องได้เป็นอย่างดี ไม่ใช่แค่ภาพที่เรามองเห็นได้ด้วยตา แต่ยังมีที่มาที่ไปในตัวที่ทำให้รู้สึกว่าชอบเนื้อเรื่องโดยไม่รู้ตัว
ฟังแบบนี้แล้วคงรู้สึกว่าทุกคนต้องมีปมที่สร้างความหนักใจในการดู แต่ความจริงแล้ว มันยังมีมิติอื่นๆ ที่นำเราไปลุ้นไปกับตัวละครต่างๆ อีกหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นนิสัยใจคอ แง่มุมเบาๆ หรือบทสนทนาของนักแสดงที่เข้าขากัน ดังนั้นไม่ต้องกังวลในจุดนี้
เหนือสิ่งอื่นใด จุดแข็งของ SOA คือการใช้ศักยภาพของตัวละครอย่างเต็มที่
(ที่มา: Entertainment Weekly)
ตลอดการรับชม SOA ของคุณ จะมีความรู้สึกชื่นชอบเกือบทุกตัวละคร ในทุกจุดของเรื่องอีกด้วย ไม่ใช่แค่ภาพที่เรามองเห็นได้ด้วยตา แต่ก็มีที่มาที่ไปในตัวที่ทำให้ผมรู้สึกชอบเรื่องนี้โดยไม่รู้ตัว
ฟังแบบนี้แล้วคงรู้สึกว่าทุกคนต้องมีปมที่ทำให้หนักใจน่าดู แต่แท้จริงแล้วยังมีมิติอื่นๆ ที่ทำให้เราลุ้นไปกับตัวละครต่างๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นนิสัยใจคอ มุมเบาสมอง หรือบทพูดของนักแสดงที่เข้าขากัน ดังนั้นไม่ต้องกังวลในจุดนี้
อยากบอกให้รู้ก่อนชม
เรื่องแรกคงจะเป็นเรื่องการ “เปิดใจ” เพราะตัวผมเองก็มีปัญหาในตอนแรก ด้วยรูปลักษณ์ของซีรีส์ที่ไม่ชวนให้เราสนใจมากนักเมื่อแรกพบ ไม่ว่าจะเป็น “แก๊งค์มอเตอร์ไซค์” หรือ “ลัทธิอเมริกัน” ที่สามารถสัมผัสได้ก่อนใคร
แวบแรกทั้งเกี่ยวกับแก๊งมอเตอร์ไซค์และลัทธิอเมริกันอาจทำให้คุณลำเอียง
แต่เท่าที่รีวิวไปในรายละเอียดซีรีส์ กลับไม่ติดประเด็นนั้นเลย SOA ครอบคลุมเนื้อหาที่ประกอบเป็นเรื่องราวดีๆ โดยไม่เน้นการไล่ล่าบนเบาะของ Harley หรือความเป็นอเมริกันเต็มตัวแบบที่เราอาจไม่ชอบจากหนังเรื่องอื่น
หนังมีมวลมากกว่าที่คุณคิด เพราะมีเรื่องราวความเป็นมนุษย์และแรงขับภายในของตัวละครที่ทำให้เรารู้สึกลึกซึ้งกว่าภาพแรกที่เห็น
ความดิบระดับ 18+ หรือ 20+ เป็นอีกสิ่งที่ทำให้ซีรีส์ไม่เหมาะกับทุกเพศทุกวัย
(ที่มา : LADbible)
อีกอย่างคือเรื่องของความดิบ ไม่รู้จะเรียกว่า 18+ หรือ 20+ ดี เพราะแม้เนื้อหาจะเข้าใจไม่ยาก แต่ก็ไม่เหมาะกับทุกเพศทุกวัย SOA ค่อนข้างเป็นผู้ชาย ผู้ชายในแบบที่ดูดี คุณจะต้องเดินไปหยิบเบียร์จากตู้เย็นมาจิบ (ไม่เชื่อก็ลองดู!)
ดังนั้นหากคิดจะชวนแฟนสาวไปเที่ยว คุณอาจต้องเตรียมใจเอาไว้ว่าฉากดิบๆ แมนๆ อาจเป็นกำแพงสำหรับพวกเขาได้ไม่น้อย